เชียงใหม่ประกาศช่วงเวลาห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดอย่างเด็ดขาด ระหว่าง 20 กุมภาพันธ์-20 เมษายน 2560 เพื่อเตรียมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน หมอกควันปกคลุมทั่วเมือง ส่งกระทบต่อสุขภาพประชาชนและเสียหายต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้มีประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 11 มกราคม 2560 เรื่อง กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดอย่างเด็ดขาดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2560 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศให้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าเป็นวาระของจังหวัด ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และประชาชนทุกคนในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
โดยในปีนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการ 3 ขั้นตอน คือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2559-20 กุมภาพันธ์ 2560 อยู่ในขั้นตอนการป้องกัน โดยบูรณาการทุกภาคส่วน ให้จัดเตรียมบุคลากร เครื่องมือ งบประมาณ รวมทั้งให้ไปดูความเหมาะสมเรื่องการชิงเผา และทำแนวกันไฟตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ และได้มีการกำชับเด็ดขาดว่า ในระหว่างที่มีพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในระหว่างวันที่ 15 – 28 กุมภาพันธ์ 2560 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี จะเสด็จฯ ทรงงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอความร่วมมือทุกหน่วย และประชาชนทุกพื้นที่ห้ามเผาโดยเด็ดขาด
ขั้นตอนที่ 2 ในช่วงการรับมือ ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์-20 เมษายน 2560 จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาด ภายใต้ชื่อ “60 วันห้ามเผาเราทำได้ เพื่อเชียงใหม่ไร้หมอกควัน” โดยตั้งศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ทั้งในระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อติดตามสถานการณ์ รับแจ้งเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง ทางหมายเลขโทรศัพท์ 053-112236 และ หมายเลข 191 จัดชุดลาดตระเวน และชุดปฏิบัติการเข้าดับไฟทันที หากมีผู้ฝ่าฝืนก็จะบังคับใช้กฎหมายลงโทษอย่างเฉียบขาด โดยตั้งรางวัลนำจับสำหรับผู้แจ้งเบาะแสเพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด รายละ 5,000 บาท
ส่วนขั้นตอนสร้างความยั่งยืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน เป็นต้นไป ถึงแม้จะพ้นระยะเวลาประกาศช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดไปแล้ว หากผู้ใดต้องเผา หลังวันที่ 20 เมษายน 2560 ก็ยังต้องขออนุญาตจากนายอำเภอก่อนทุกครั้งเพื่อควบคุมการเผาในที่โล่งไม่ให้ลุกลาม และไม่ให้มีปัญหาเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันให้ทุกภาคส่วนบูรณาการความร่วมมือดำเนินการตามโครงการพระราชดำริฯ ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าไม้ โดยเฉพาะโครงการปลูกป่าในใจคน การปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก การทำฝายชะลอน้ำแบบผสมผสานในพื้นที่เหนือเขื่อน อ่างเก็บน้ำทุกแห่ง เพื่อให้เกิดผืนป่าที่เป็นประโยชน์หลากหลาย
ทางด้านสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีหนังสือแจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ให้ประสานการปฏิบัติ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พลังงานจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ และสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ในการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี เพื่อลดและกำจัดเศษวัชพืชที่เหลือจากการเกษตร โดยจะเชิญนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมประชุม ในวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำความรู้ไปเผยแพร่แก่ประชาชน พร้อมกับลงสำรวจพื้นที่ตรวจสอบจุดที่มี Hotspot เกิดขึ้น พื้นที่ที่มีการเผาในที่โล่ง เพื่อดำเนินการตามประกาศของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเข้มงวด รวมถึงจุดที่มีการก่อสร้างหรือมีรถบรรทุกดิน หรือ มีเหตุก่อความรำคาญ ตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป